หัวข้อยอดนิยม

culture (9) customs (1) economic (2) Education (6) Entertainment (5) famous (1) food (7) football (1) gameshow (1) general (1) History (10) language (17) law (1) lifestlye (32) lifestyle (6) Music (1) MV (5) place (1) politic (1) singer (2) socities (5) sport (1) thai (2) travel (6) viet (1) vietnam (19) work (2)

Sunday, July 8, 2007

Viet nam Soldier

เป็นการเดินทางไปทำงานรอบที่สอง แต่ครั้งนี้เราไปเริ่มงานสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานให้นิคมThai Hoa ซึ่งเป็น นิคมอุตสาหกรรมของคนไทยที่จังหวัดลองอัน Long An ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกผ่านจากสนามบินตัน เซิง ยึกTon Son Nhat ไปทาง ตำบลฮุกโมนHoc Mon ก่อนเข้าเขตจังหวัดไต นิน Tay Ninh ก่อนถึงนิคมลองอันชิดซ้ายเลี้ยวซ้ายไปทางคอมมูนดึ๊ก หลอบ ห่า Đuc Lop Ha แต่ถ้าเลยผ่านแยกดังกล่าวไม่เข้าดึ๊ก หลอบ ห่า ก็จะไปเขมรโดยผ่านด่าน หมอกบ่ายMoc Bai เข้าพนมเปญ ผมเคยเห็นมีรถบัสสีเหลืองบริการวิ่งจากพนมเปญไปโฮจิมินห์โดยจะไปถึงตลาด เบิ่น ถัน(เจอะ เบิ่น ถัน) ร่ายมานานเข้าเรื่องกันดีกว่า ตอนที่เราทำการคัดเลือก ผู้รับเหมาหรือ หย่า เถ่า ตอนนั้นก็มีผู้รับเหมาหลายเจ้าด้วยกันที่สนใจโครงการ สุดท้ายเราก็เลือก บริษัท 59 ซึ่งเป็นบริษัทของทหาร หรือกอม ตี เหง่ย ลิ้น công ty người lính เวลามาประชุมผู้จัดการจะแต่งตัวมาเต็มยศนายร้อยเลย เหมือนประมาณว่าทำแล้วไม่จ่ายตังค์ โดยอุ้มแน่ ฮ่า...

ผมสังเกตอย่างนึงรถที่เขาใช้จะป้ายสีแดง ทำให้รู้ว่าเป็นรถทหาร แต่ถ้าเป็นรถหลวงหรือราชการทั่วไป จะเป็นป้ายสีฟ้าตัวอักษรสีขาว เท่าที่ทราบมีกองพันที่มีเครื่องจักรงานก่อสร้างและทหารช่างจำนวนมาก หลังช่วงหมดสงครามก็ว่างงาน ก็เลยมารับงานรับเหมาก่อสร้างกับเขาด้วย อย่างพื้นที่ที่เราทำการก่อสร้างเป็นเขตพื้นที่สงคราม เราอยู่ไม่ไกลจากเขตตำบล กู๋จี ที่เป็นนครใต้ดินของเวียตกงเอาชนะทหารอเมริกัน จึงมีระเบิดอยู่เป็นจำนวนมาก มีอยู่ครั้งหนึ่งตอนที่ผมกำลังถมดินก็มีรถบรรทุกมาลงดินถมที่มีลูกระเบิดขนาดยาวประมาณศอกเศษลงมาด้วย ทำเอา รปภ.วิ่งกระจาย ผมเลยเดินไปดู แล้วแจ้งทางทหารมาเก็บกู้อันนี้ไม่เสียค่าใช้จ่ายเพราะรัฐเขารับผิดชอบ ส่วนเรื่องเลี้ยงดูปูเสื่อ หาเงินทุน ทหารเขาเก่ง เพราะถือว่าเป็นธุรกิจ เมา เที่ยวถึงไหนถึงกัน และแต่ละคนก็มีฐานะไม่เบาทีเดียว

บรรษัทนี้ เข้าตลาดหลักทรัพย์หรือเอ็นเตอร์ไพร์ และชอบตั้งบริษัทโดยเอาชื่อกองพัน อย่างกองพันนี้เป็นกองพันที่ 59 จบงานเป็นไงบ้างผมก็ไม่ทราบ เพราะบริษัทเรียกตัวกลับมาทำงานที่เมืองไทย ทราบภายหลังเขาสร้างอาคารสูบน้ำและอุโมงค์สูบน้ำเสร็จ แต่เจ้าของจ่ายตังค์ไม่ครบ และเขาประสบปัญหากับหลายโครงการด้วยกัน(เพื่อนเวียตเล่าให้ฟัง) ทำให้ต้องชะลอและหยุดงานไป ก็เป็นเรื่องน่าเศร้า นี่แหละชีวิตคนก่อสร้าง

Thursday, July 5, 2007

Thanh Hóa City On Demand Part II

เมืองทันฮว้า เป็นเมืองขนาดใหญ่ในภาคกลางของเวียตนาม อันประกอบไปด้วยภูมิทัศน์สามลักษณะอันได้แก่ ภูเขา พื้นราบ และ เนินเขา มีชายหาดยาวกว่า 102 กม.เป็นชุมชนโบราณของชาวเวียต และยังมีวัฒนธรรม Đông Sơn(ดอมเซิง) ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ยังมีหาดทราย Sầm Sơn =ซั่ม เซิง ที่เคยเล่าไว้แล้ว เกาะTrong Mai =ซอม มาย ,วิหารDoc Cuoc,เนินเขาCo Tien และป้อมค่ายทหารสมัยราชวงศ์ห่อ Hồ(Thành Nhà Hồ=ทั่น หย่า ห่อ)ซึ่งถูกสร้างขึ้นในปี 1397 ในบริเวณนี้ยังเป็นที่ตั้งของรัฐบาลกลาง และโครงการทางการทหารบางอย่าง.ค่ายทหารโบราณในเวียตนามส่วนมากอย่างค่ายHoa Lư(ฮวา ลู) และ Cổ Loa(โก๋ ลัว) เป็นป้อมค่ายที่ถูกสร้างด้วยด้วยดินเหนียว ส่วนค่ายทหารของราชวงศ์ห่อ ซึ่งถูกใช้งานตั้งแต่ปี 1397-1407 นับกว่าสิบปี กลับถูกสร้างด้วยหินแกรนิตอย่างแข็งแกร่งด้วยวิธีการอันฉลาดและสร้างสรรค์ของคนโบราณเมื่อกว่าหกศตวรรษที่แล้ว ซึ่งวิธีการสร้างนั้นก็ยังคงเป็นปริศนาจวบจนทุกวันนี้


ส่วนอีกสถานที่หนึ่งที่อดกล่าวถึงไม่ได้ก็คือ วิหาร บ่า จิ่ว Bà Triệu (=ท่านผู้หญิงจิ่ว) ซึ่งตั้งอยู่ตีนเขาตุ่มTùng เขตคอมมูนจิ่ว ล่อบ Triệu Lộc โดยสถานที่แห่งนี้เดิมเป็นที่ตั้งของกองกบฎก่อจราจลของท่านผู้หญิงโดยท่านมีชื่อเดิมว่าจิ่ว ถิ จินTriệu Thị Trinh ท่านเป็นวีรสตรีแห่งชาติ โดยการเป็นผู้นำในการต่อต้านการรุกรานของเวียตนามเหนือในศตวรรษที่สาม โดยทุกปีที่วิหารจะจัดพิธีรำลึกถึงท่านในวันที่ 21 ตามปฏิทินจันทรคติหลังตรุษจีนไปสองเดือน น่าจะช่วงไหว้เทศกาลพระจันทร์นะ ประชาชนที่มาร่วมพิธีส่วนมากจะยังคงรำลึกถึงคำกล่าวของท่านผู้หญิงที่ว่า " ฉันอยากจะวิ่งฝ่ากระแสลมที่พัดโหมกระหน่ำ แล่นเรือฝ่าคลื่นที่โหมกระหน่ำ ขับไล่อริราชศัตรูออกจากประเทศ และจะไม่ให้อภัยตัวเองเด็ดขาดหากต้องตกเป็นทาสของพวกมัน"


แม่น้ำหมาMã เป็นแม่น้ำขนาดใหญ่ที่ใกล้ชายหาดมากที่สุด โดยไหลผ่านเขาสูงรูปร่างคล้ายหัวมังกร(หั่ม หร่อม)Hàm Rồng โดยยังเป็นชื่อของสะพานที่นั่นอีกด้วย เมื่อต้นศตวรรษที่ยี่สิบ วิศวกรชาวฝรั่งเศส พยายามที่จะสร้างสะพานเหล็กข้ามแม่น้ำหมา โดยได้แล้วเสร็จในปี 1905 แต่เป็นแค่สะพานขึงเท่านั้น และได้ถูกทำลายในช่วงสงครามต่อต้านฝรั่งเศส เมื่อสันติภาพกลับมาอีกครั้งในปี 1954 วิศวกรชาวเวียตนามได้ทำการสร้างสะพานเหล็กดังกล่าวต่อ โดยสะพานหั่มหร่อม นี้ได้แล้วเสร็จในวันที่ 19 พฤษภาคม 1964 ต่อมาได้รับความเสียหายจากการโจมตีตัดกำลังเวียตนามเหนือโดยสหรัฐในสมัยสงครามเวียตนาม

Wednesday, June 27, 2007

Thanh Hóa City On Demand Part I


Thanh Hóa ทัน ฮว้า เป็นหัวเมืองจังหวัดแห่งหนึ่งของเวียตนาม โดยมีประชากรเกือบสองแสน บนพื้นที่เพียง 57.9 ตร.กม. เมืองนี้อยู่ทางตอนใต้ของลุ่มแม่น้ำแดง(Song Hong=ซอม ฮอง) มีแม่น้ำมา(Ma) และแม่น้ำจู(Chu) โดยห่างจากกรุงฮานอยเพียง 137 กม.ผ่านทางถนนและรถไฟ และได้พิจารณาให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษศูนย์กลางอุตสาหกรรม โดยมากจะเป็นแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร ไม้แปรรูป และอาหารทะเล ซึ่งก็คล้ายนิคมอุตสาหกรรมที่เมืองชลบุรีบ้านเรา ส่วนสถานที่สำคัญที่ขึ้นชื่อก็คือ
1.รีสอร์ทชายทะเล Sam Son(แซม เซิง) ที่สวยงามขึ้นชื่อมาตั้งแต่ คศ.1906 สมัยเป็นอาณานิคมฝรั่งเศสแล้ว โดยพึ่งฉลองครบร้อยปีไปเมื่อไม่นาน (http://thanhhoatourism.com.vn/) โดยมีนักท่องเที่ยวมาแต่ละปีไม่ต่ำกว่าห้าแสนคน ดังนั้นรัฐบาลท้องถิ่นจึงได้ทำการลงทุนกว่าหลายแสนเหรียญพัฒนาสาธาณูปโภคพื้นฐานไฟฟ้า ประปา ถนน อาคารต่างๆ ศูนย์การท่องเที่ยว และการอบรมผู้ให้บริการต่างๆ รวมทั้งซิกโลขับสามล้อ เพื่อเอาใจนักท่องเที่ยว นอกจากนั้นยังมีที่อื่นๆอย่าง เนินเขาTruong Le เกาะTrong Mai แหล่งศึกษานิเวศน์วิทยา Quang Cu แต่ปัจจุบัน Sam Son เป็นเขตพื้นที่มีผู้ติดเชื้อHIV AIDS(=สีดา) สูงมาก ขอให้ระมัดระวังสำหรับนักเที่ยวกลางคืน
2.พิพิธภัณฑ์ทางโบราณHoang Long
3.โบสถ์คาทอลิคหลังใหญ่ ที่เป็นรูปแบบ Immaculate Conception คือบูชาและนับถือพระแม่มารีย์โดยเฉพาะ อย่างบางท่านที่เคยไปเมืองโฮจิมินห์หน้าโบสถ์ก็จะมีรูปปั้นพระแม่มารีย์เช่นกัน คงจะรูปแบบเดียวกัน
4.อุทยานแห่งชาติBenen
5.ถ้ำหินงอกหินย้อยNgason
เมืองนี้มีประวัติที่มาและรายละเอียดยาวน่าสนใจ ลองไปฝึกอ่านข้อมูลของเมืองนี้ เป็นภาษาเวียตนามที่ http://vi.wikipedia.org/wiki/Thanh_Ho%C3%A1

Sunday, June 24, 2007

The Day Blue Sky

ช่วงนี้อากาศดี ทำให้คิดถึงสมัยที่มาทำงานเวียตนามใหม่เมื่อสี่ปีก่อน ตอนนั้นไม่ค่อยได้เจอคนไทยเลยเพราะนิคมVSIPที่เราไปทำงานส่วนมากจะเป็นคนสิงคโปร์(เหง่ย ซิง กา โป) ช่วงหยุดวันหนึ่งไม่รู้ไปไหนก็เลยลองซื้อคาราโอเกะจาก คนขายปั่นจักรยาน(เหง่ย ไล้ แซ ดาบ บ๊าน ซีดี ) มีอยู่เพลงหนึ่งที่ฟังแล้วชอบเลยเอามาฝากกัน เพลงชื่อ nhung nho tinh anh(ยังคิดถึงคุณเสมอ) ของ hoang chau Play/Stop MV Please Right Click Loop Then Play/Stop Below

Saturday, June 16, 2007

Ao Dai Nation Custom Part I

คงเป็นที่ทราบกันแล้วว่าชุดประจำชาติของเวียตนาม ที่เรียกว่า เอ้า หย่าย หรือ เอ้า ซ่าย ออกตามสำเนียงภาคเหนือ จริงแล้วเป็นชุดที่ดัดแปลงประยุกต์ใช้กันเมื่อไม่นานมานี้ บางคนอาจเห็นว่ามีการสวมใส่หมวกเป็นรูปวงรีสีเข้ากับชุดซึ่งนิยมใส่กันมาตั้งแต่ราชวงศ์Nguyen(ภาคกลาง) เรียกหมวกนั้นว่า Khan Dong=กัน ดอม

ชุดเอ้า หย่ายได้เริ่มมีพัฒนาการเมื่อต้นปี คศ.1700 สมัยที่ยังตกเป็นเมืองขึ้นของจีน ราชวงศ์ชิง ซึ่งยังเรียกชุดดังกล่าวว่า กี่เพ้า เป็นชุดต้นกำเนิด โดยผ่านการดัดแปลงรูปแบบใช้งานมากว่าร้อยปี คิดว่าสมัยนั้นคงต้องการแยกแยะว่าเป็นคนเผ่าไหนเพราะแท้จริงแล้วคนเวียตรูปลักษณ์ไม่ได้ต่างจากคนจีนหรือชาวเขาเผ่าอื่นๆ จึงมีการดัดแปลงการแต่งกายเพื่อระบุกลุ่มให้กับพวกตนเอง จะว่าไปก็เป็นการสร้างวัฒนธรรมเฉพาะกลุ่ม แต่มาจากพื้นฐานเดียวกัน โดยชุดยังคงเป็นกระโปรงยาวผ่าสองข้าง ทรงกระบอกสูงรัดรูปพอดีตัวมีคอปกชุดจะคลุมกางเกงผ้าไหมขายาว ต่างกับกี่เผ้าต้นกำเนิดที่จะใส่อย่างหลวมๆ แต่ก็มีนักประวัติศาสตร์เวียตนามที่เห็นแตกต่างกันออกไป โดยรายละเอียดคงไว้เล่าในคราวต่อไป

Saturday, June 9, 2007

MAFIA VIETNAM

เมื่อปี 2006 ตอนนั้นเป็นช่วงที่รัฐบาลนายนายกชวน(นายก=ถู ตื้ง)ก็เป็นช่วงรัฐบาลของ ถูตื้งทักษิณซึ่งเป็นช่วงที่มีการปรามปราบยาบ้า(ยาบ้า=มา ตุ๊ย)มีการฆ่าตัดตอนและวิสามัญฆาตกรรมกัน ผมมีเพื่อนคนหนึ่งชื่อฮก เรียนเก่งจบลาดกระบัง ถูกจับติดคุกลาดยาว ดีที่เพื่อนๆช่วยไว้ ไม่งั้นก็ไม่รอด(ตาย=เจ๊ท) ดังนั้นการไม่เกี่ยวข้องกับเส้นทางของอบายมุข ยังคงเป็นสัจธรรมที่ควรต้องปฏิบัติกว่า 2550 ปี การคบคนดีและสนับสนุนจึงควรทำ ขอยืมดำรัสในหลวงที่ว่า "ให้คนดีปกครองบ้านเมือง"ก็คงเป็นสัจธรรมเสมอ


ในขณะที่ผมเดินทางไปถึงที่นั่นใหม่ๆ เราก็ชอบสั่งน้ำส้มมาเสมอ(น้ำส้ม=นึก กาม) เพราะเราไม่นิยมดื่มน้ำซาสี่(กลิ่นคล้ายเบนโล)เว้นแต่ไม่มีอะไรให้ดื่ม แต่เรามักล้อกันว่าเวลาถามว่าดื่มน้ำอะไร เราเลยสั่งเอา "น้ำ กาม" ซึ่งเพื่อนvietnam ค่อนข้างวิตกกระซิบบอกเราว่าอย่าพูดอีก เพราะว่า นำ-กาม เป็นชื่อของมาเฟียขาใหญ่ของเมืองโฮจิมินห์ ซึ่งเรื่องนี้คนที่นั่นรู้รายละเอียดแต่พูดอะไรไม่ได้ นำกามคนนี้และลูกสมุนนับสิบถูกประหารชีวิตด้วยการยิงเป้าทั้งหมด โดยสาเหตุมาจากกลุ่มของเขาฆาตกรรมนายตำรวจชั้นสัญญาบัตรท่านหนึ่ง ประกอบกับเรื่องโกงกินและคอรัปชั่น ระหว่างกลุ่มมาเฟียและตำรวจ(ตำรวจ=กอม อาง)ที่นั่นกันอย่างกว้างขวาง และกระแสจากวิสามัญฆาตกรรมจากถูตื้งทักษิณ ทำให้มีการสร้างภาพกวาดล้างกลุ่มอิทธิพลที่โฮจิมินห์ กลุ่มอิทธิพลมีตั้งแต่ข้าราชการ ตำรวจสัญญาบัตร ประทวน จราจร เทศกิจ การเก็บค่าจอดมอเตอร์ไซต์(ครั้งละสองพันด่อง)และรถยนต์ตามถนนสาธารณะ(ครั้งละหมื่นด่องถึงสามหมื่นด่อง)ซึ่งก็คงเป็นเรื่องแปลกสำหรับเรา แต่เป็นเรื่องที่คนvietnamรู้แต่พูดไม่ได้ ส่วนค่าพิเศษน้องน้องๆที่เราพามาจากร้านไปคุยค้างคืนที่ห้องก็ต้องจ่ายส่วนหนึ่งให้ตำรวจท้องที่แสนด่อง(รวมในค่าตัวของน้องๆ) และเจ้าของโรงแรมก็ต้องจ่ายด้วยเช่นกันเป็นค่าธรรมเนียมไม่งั้นโดนปรับถึงขั้นปิดโรงแรม เพราะที่vietnamมีสายสืบใน นอกเครื่องแบบและการรายงานจากแท๊กซี่(=แต๊ก ซี)และการแจ้งจากทางร้านที่เราพาเด็กๆ(=ก่า ม้ำ ด๋อ)ออกมาตลอดเวลา ดังนั้นค่าใช้จ่ายเราจะแพงกว่าคนvietnamสองถึงสามเท่าและต้องมาจ่ายค่าห้องสองห้องเพราะไม่มีทะเบียนสมรส เขาห้ามนอนห้องเดียวกัน ทุกวันก่อนเที่ยงคืนจะมีสายตรวจมาตรวจเสมอที่โรงแรม ดังนั้นเพื่อนผมบอกว่าพวกนี้นี่แหละเป็นมาเฟียตัวจริง


หลายคนอาจจะมองว่าศักยภาพและเศรษฐกิจของvietnamดีขึ้น นั่นเป็นภาพภายนอก แต่พวกเขาก็ไม่ได้ต่างจากพวกผมที่ต้องทำงานปากกัดตืนถีบ เพื่อนvietnamโทรมาเมื่อสัปดาห์ก่อน บอกว่าvietnamตอนนี้ดูวุ่นวายและรถติด(=แกก แซ)กว่าเดิม ความเป็นอยู่แย่กว่าเดิม แต่คนต่างชาติ(=เหง่ย นึก โหง่ย)เยอะมาก คนเห็นแก่ตัวมากขึ้นไม่ดีเลย ผมเลยเตือนสติเพื่อนว่าต้องอยู่แบบ "เด่ย ดู๋ ดู๋ หล่า หั่น ฟุ๊ก จอ เด่ย บ่าง" ทำนองว่าใช้ชีวิตแบบพอเพียงแล้วจะเป็นสุข และขอฝากคำนี้ไว้กับเพื่อนๆทุกคนนะครับ เงินไม่ได้แก้ปัญหาได้ทุกอย่าง มีหลายอย่างที่เงินซื้อไม่ได้คือเวลา ความรู้สึก และจิตวิญญาน ฝันดีทุกท่านครับ

Sunday, June 3, 2007

PANTIP VIETNAM

ที่โฮจิมินห์ ตอนที่ทำงานผมค่อนข้างมีปัญหากับคอมพิวเตอร์บ่อยๆ เกี่ยวกับโปรแกรมการใช้งานที่เสียหายแล้วเปิดใช้งานไม่ได้ สาเหตุหลักก็คือไฟฟ้าดับบ่อยทำให้เครื่องเสีย ผมเลยต้องหาโปรแกรมคอมพิวเตอร์มาลงเครื่องเอง ก็เลยสอบถามและให้เพื่อนพาไปที่ ถนนโตง ทัก ตุ่ม(Ton That Tung) ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลแม่และเด็ก ใกล้รอยต่อเขตสาม บริเวณใกล้กันก็มีร้านขายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์หลายร้าน แต่ร้านตามถนนดังกล่าวส่วนมากจะขายซีดีโปรแกรมใช้งานซึ่งราคาถูกกว่าบ้านเรามาก ตกแผ่นละ 3.000-4.000 ด่อง ก็สิบบาท ผมเคยไปซื้อที่พันธ์ทิพย์ตกแผ่นละร้อยนะครับ ต่างกันมาก ส่วนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ราคาก็ไม่ต่างจากบ้านเรา คิดว่าน่าจะรับต้นทุนที่ไม่ต่างกัน ตอนที่ผมไปซื้อ กอนจวด(=เม้าส์) ตกราคา 55.000 ด่อง ก็ 130บาท แต่ราคาขายเขาอิงสกุลเงินดอลล่าร์เพราะง่ายต่อการปรับราคา อย่างแคตตาล๊อกขายของอุปกรณ์ผมเคยอ่านดูราคาก็สังเกตพบว่าเป็นเช่นนั้นครับ ส่วนพวกหนังชนโรง หรือเพลง คาราโอเกะ ก็มีเป็นบางร้านแต่ก็ไม่มากเท่าร้านบริเวณข้างตึกSUNWA ถนนเหวียงเหว่ ตรงนั้นจะมีให้เลือกมากกว่าราคาก็ 15.000-20.000 ด่อง ก็ 40 บาท เคยซื้อมาดูแล้วบางแผ่นก็ดูดีมีซาวด์แทร็คแบบเวียตนาม อาจไม่ถูกใจผมนิดหน่อยเพราะคนพากย์คนเดียวตลอดเรื่อง บางแผ่นดูดี บางแผ่นก็ดูไม่ดี ซีดีเพลงที่นั่นหาซื้อง่ายพอพอกับหนังสือพิมพ์ เพราะมีบริการขายถึงหน้าบ้าน จะมีรถจักรยานปั่นมาขายให้เลือกกันได้เลย แต่ส่วนมากจะเป็นเพลงซะมากกว่าราคาก็ทั่วไปพอพอกับขายที่ร้าน