หัวข้อยอดนิยม

culture (9) customs (1) economic (2) Education (5) Entertainment (5) famous (1) food (7) football (1) gameshow (1) general (1) History (10) language (16) law (1) lifestlye (32) lifestyle (6) Music (1) MV (5) place (1) politic (1) singer (2) socities (5) sport (1) thai (2) travel (6) viet (1) vietnam (18) work (2)

Monday, July 14, 2008

ดินแดนแห่งต้นมะพร้าว

Dừa เหยื่อ หรือมะพร้าว มีมากใน เขตQuoi Anซึ่งเป็นบริเวณพื้นที่ในลุ่มแม่น้ำโขง จ.Ben Tre มีผลิตภัณฑ์เลื่องชื่อที่ทำจากต้นมะพร้าวหลายๆอย่างด้วยกัน
จากท่าเทียบเรือศูนย์ท่องเที่ยวPhong Phu เดินทางโดยเรือ12ที่นั่งของบริษัทBen Tre Tourism ผ่านทิวร่มไม้ พุ่มไม้ เลียบไปตามคลองMieu ประมาณ 100 เมตรก็จะถึงแม่น้ำTien ที่มีกระแสน้ำและคลื่นลมซัด พาให้เรือท่องเที่ยวพาทุกคนค่อยๆไปยังดินแดนแห่งดงมะพร้าว

ในขณะที่เรือเคลื่อนที่ไปทางทะเลด้านตะวันออกนักท่องเที่ยวจะได้ชมความงามของเมืองMy Tho(หมี ทอ)ทางด้านซ้ายมือ ลมทะเลสงบลงทันทีที่เรือเลี้ยวขวาเข้าสู่คลอง Xep ผ่านดงต้นไทรสองข้างทาง ซึ่งพบเห็นได้ทั่วไปตามบริเวณลุ่มแม่น้ำโขงกิ่งที่เรี่ยรายบางส่วนติดกับผิวน้ำ คลื่นเรือที่กระทบทำให้ดอกของมันปลิวไปตามลม


จนกระทั่งเรือมาเทียบท่าที่ Quoi An Eco-Tourist อำเภอChauThanh จังหวัดBen Tre นักท่องเที่ยวต้องเดินไปตามดงต้นลางสาดตลอดแนวถนน หลังจากเที่ยวชมผลไม้ ก็แวะเข้าบ้านรับรองที่Quoi An

นางTran Thi Thu อายุ 40ปีกล่าวว่าเธอเคยเป็นไกด์ท่องเที่ยวกว่า20ปี เมื่อสองปีที่ผ่านมาได้รับแต่งตั้งเป็นประธานบริหารจัดการพื้นที่ท่องเที่ยวกว่า 2,000 ตร.ม. ที่Quoi An มีชื่อเสียงเรื่องบ้านไม้มะพร้าวซึ่งเป็นความภูมิใจของคนBen Tre(เบ่น แจ๋) ไม่ว่าจะหลังคาที่มุงด้วยทางมะพร้าว ผนังพื้น ประตูหน้าต่างล้วนใช้ทำมาจากไม้มะพร้าว ฐานรองรับบ้านก็มาจากต้นมะพร้าว ที่ดูสะดุดตาก็เป็นรางระบายน้ำที่ทำจากแผ่นไม้มะพร้าว งานไม้มะพร้าวเฟอร์นิเจอร์ล้วนทำจากช่างไม้ฝีมือ

ร้านขายของที่ระลึกที่Quoi Anเป็นทรงแปดเหลี่ยมสินค้าบริการมากมายที่ทำจากมะพร้าว มีโรงงานผลิตของที่ระลึกพื้นที่กว่า 100 ตร.ม. 8 เครื่องจักร 6 ช่างไม้ งานไม้มะพร้าวที่ทำได้มีกว่า 200 แบบ ผลิตจากต้นมะพร้าว40ต้นอายุกว่า 30ปีซึ่งจะถูกจัดแสดงให้ชมได้ที่ nha bat dan(หย่า บัด ด่าน=พิพิธภัณฑ์) เป็นเรือนไม้ทำจากมะพร้าวเช่นเดียวกัน ใกล้กันก็จะมีบ้านลักษณะเดียวกัน โดยการเลือกใช้ไม้นั้นต้องอายุกว่า30ปีลำต้นตรงมีตำหนิน้อย

มีคนงานสองคนทำงานที่ห้องแสดงเย็บปักถักร้อย Nguyen Thi Mai เธออายุ 20 ปี รายได้ 600,000 ด่อง(1,556 บาท) แม้เพียงเล็กน้อยแต่ก็พอเพียงกับชีวิตบ้านนอก ชิ้นงานที่ขายราคาก็แล้วแต่ชนิด อย่างผ้าทอมือ 1.7 ม.x3.0 ม. ราคา 1.500.000 ด่อง(2,890 บาท) งานเย็บปักรูป ชิ้นละ 300.000 ด่อง(578 บาท) เสื้อปักลายมังกร ตัวละ 90.000 ด่อง(173 บาท) ผ้าเช็ดหน้าผืนละ 20.000-45.000ด่อง(39-87 บาท) กระเป๋าปักลายใบละ 60.000-250.000ด่อง(118-482 บาท)

เรือนใหญ่มีบริการเครื่องดื่มเป็นที่น่าดึงดูดใจของชาวยุโรป ญี่ปุ่น เกาหลี กินผลไม้สด ดื่มชาน้ำผึ้งไม่ว่าจะเป็นแบบร้อน เย็น ผสมมะนาวหรือมะพร้าว ตามที่ชื่นชอบ

ผึ้งจะเก็บน้ำหวานตามสวนลางสาด แม้ว่าตอนนี้จะยังไม่ใช่ฤดูดอกลางสาด แต่มีผลไม้อื่นที่ออกดอกให้มันเก็บเกี่ยวมากมาย สิ่งที่นักท่องเที่ยวต้องนำติดมือกลับเสมออย่างงานไม้ฝีมือ น้ำผึ้ง งานปักเย็บ

คุณ Thu กล่าวว่าช่วงที่นอกฤดูท่องเที่ยว ที่Quoi An จะมีคนมาเที่ยว กว่า 100คนต่อวัน ช่วงเปิดฤดู ก็รับคนมาเที่ยวจนแทบไม่ไหว จนต้องเพิ่มอาคารบริการเครื่องดื่ม คนต่างชาติต่างชื่นชอบความเงียบสงบที่นี่มาก จนเราคงต้องสร้างบ้านพัก และส่วนรองรับอื่นๆเพิ่มขึ้น
ที่มา:The Saigon Times Weekly

Saturday, March 15, 2008

จอมพลรัฐบุรุษแห่งแดนใต้

นายพลเล วัง ยุด Le Van Duyet (1763-1832) ผู้เป็นรัฐบุรุษปกป้องเอกราชเวียตนามใต้ ปัจจุบันสุสานเขาตั้งอยู่ที่เขตBinh Thanh ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญในกรุงไซง่อน

นอกจาก ตลาดBen Thanh ,อาคารรัฐสภา(the Reunification Palace),โบสถ์จั่วบา,ที่ทำการไปรษณีย์และโรงมหรสพแห่งชาติ(The City Opera House) แล้วยังมีอีกที่หนึ่งที่สำคัญไม่น้อยทีเดียวคือวัด Lang Ong Ba Chieu ซึ่งเป็นสุสานประจำตระกูลของรัฐบุรุษเล วัง ยุด ถูกสร้างในศตวรรษที่ 19 โดยเป็นที่ที่หลงเหลืออยู่ หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองของไซง่อน

ชื่อของวัดมีที่มาของการเล่นคำที่น่าสนใจกล่าวคือLang Ôngเป็นคำในภาษาเวียตนามแปลว่าวัดของสุภาพบุรุษ มาผสมคำกับ Bà Chiuที่มีความหมายถึงท่านผู้หญิงChiu ทำให้มีความหมายโดยรวมทั้งสองเพศ คือเป็นวัดของสุภาพบุรุษในเขตของท่านผู้หญิงChiu(วัดอยู่ติดกับตลาดBà Chiu)

นายพลเล วัง ยุด เป็นผู้นำชาติคนสำคัญในยุคของราชวงศ์Nguyen เขามีส่วนสำคัญในการรักษาอำนาจอธิปไตยสูงสุดในเวียตนามใต้ ซึ่งเคยเป็นดินแดนที่ถูกทอดทิ้งมานาน เป็นบุตรชายของบุคคลสำคัญที่อพยพมาจากภาคกลาง จ.Quang Ngai โดยได้ย้ายลงมาตั้งถิ่นฐานทางตอนใต้ ซึ่งปัจจุบันก็คือ จ.Tien Giang บริเวณลุ่มแม่น้ำโขงนั่นเอง

ปลาย ศตวรรษที่ 18 พระเจ้าNguyen Anh ถูกโจมตี โดยกองกำลังกบฎTay Son จนต้องหลบหนีมาพักกับคนในตระกูลยุด จนเมื่อเขาอายุได้ 17 ปี จึงได้เป็นขันทีรับใช้ พระเจ้าNguyen Anh หลังจากนั้นกองกำลังทหารNguyen ได้มีชัยเหนือกองกำลังกบฎTay Son พระเจ้าNguyen Anh จึงได้เสด็จขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์ Gia Long(ยา ลอง) ในปี ค.ศ. 1802 โดยที่ตัวเขาเหมือนได้รับโชคสองชั้นได้รับการพระราชทานตำแหน่งให้เป็นผู้สำเร็จราชการ Gia Dinh (คำว่าGia Dinh ยาดิ่น=ครอบครัว เป็นที่รู้กันในตอนนั้นว่าหมายถึงเวียตนามใต้ )

ในช่วงตลอดชีวิต เขาคือสุดยอดนายพล ได้ทำการปราบกบฎภายในประเทศและผู้รุกรานจากนอกประเทศ ด้วยการประสบความสำเร็จในกองทัพ เขาจึงได้รับการแต่งตั้งเป็นนายพล นอกจากเขาจะไม่สนับสนุนการขึ้นครองราชย์ของกษัตริย์Minh Mang เขายังปล่อยให้มีมิชชันนารีเข้ามาเผยแพร่ศาสนาคริสต์จากฝรั่งเศส รวมทั้งเปิดการค้าขายในราชอาณาจักรแก่พ่อค้าชาวจีน โดยไม่เกรงกลัวต่อการถอดยศ จนทำให้ไม่เป็นที่พอใจต่อกษัตริย์Minh Mang เป็นอย่างมาก

หลังจากถึงแก่อนิจกรรมของเขาในปี ค.ศ.1832 บุตรชายบุญธรรม Le Van Khoi ได้ทำการปฏิวัติล้มล้างราชวงศ์Minh Mang แต่ก็ได้ถูกจับกุมและฆ่าตายเสียก่อน เพื่อเป็นการตัดไม้ข่มนามไม่ให้เกิดการก่อกลุ่มพันธมิตรของKhoi ในปี ค.ศ.1835 กษัตริย์Minh Mang จึงเข้ารื้อถอนสุสานของนายพลเล วัง ยุด และเอาโซ่ล้อมไว้ จนกระทั่ง 6 ปีต่อมา กษัตริย์Thieu Tri(ผู้สืบราชวงศ์ต่อจากกษัตริย์Minh Mang)ได้ทำการเอาโซ่นั้นออก และทำการบูรณะสุสานใหม่ จนมาถึงรัชสมัยของกษัตริย์Tu Duc(โอรสกษัตริย์Thieu Tri )จึงได้ทำการสร้างวัดล้อมรอบบริเวณนี้ขึ้นมา

สถานที่อย่างเป็นทางการของวัดคือ 126 ถนน Dinh Tien Hoang เขตBinh Thanh วัดนี้มีถนนสี่เส้นล้อมรอบคือDinh Tien Hoang, Phan Dang Luu,Trinh Hoai Duc และ Vu Tung นักประวัติศาสตร์ท่านหนึ่งกล่าวว่าวัดแห่งนี้มีทำเลที่ดีตามตำราฮวงจุ้ยคือมีพื้นที่ลาดลงไปยังสะพานBong(สู่แม่น้ำ)

บนพื้นที่วัดกว่า 18,500 ตร.ม. นั้นมีประตูเข้าออกสี่ทิศ รั้วล้อมสี่ด้านยาวกว่า 500 ม.ทางเข้าหลักออกสู่ถนนVu Tungด้านใต้ อีกสามประตูเป็นลักษณะการก่อสร้างตามแบบอย่างโบราณของเวียตนามใต้(Gia Dinh)
ภายในตัววัดจะมีแผ่นหินจารึก สุสาน และที่สักการะบูชา สิ่งของนิทรรศการที่แสดงรูปของนายพลเล วัง ยุดและของใช้ส่วนตัวบางส่วน

โดยทั่วไป สถาปัตยกรรมเป็นรูปแบบผสมของโบสถ์ที่ Hue และวังเก่า มาผสมผสานกัน แต่ก็ยังมีเรื่องราวที่ยังคงถกเถียงกัน เกี่ยวกับชีวประวัติของนายพลเล วัง ยุด โดยผู้เขียนหนังสือ Hoi Dap Ve Sai Gon-Thanh Pho Ho Chi Minh (FAQ About Saigon-HCM City) ได้ให้ความเห็นไว้ว่า บางสถานศึกษายกย่องเขาเป็นวีรบุรุษและยอดนายพล ผู้เสียสละทุ่มเททั้งชีวิตเพื่อรักษาอธิปไตยปกป้องเวียตนามใต้ บางที่ก็กล่าวว่าเขาใช้อำนาจไปในทางที่ผิด และเป็นพวกสนับสนุนฝรั่งเศส

แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่อาจปฏิเสธได้ก็คือ เขาเป็นสร้างบรรทัดฐานของการเปิดดินแดนการค้าเสรีขึ้นในภูมิภาคนี้ ภายใต้การมองการณ์ไกล ทำให้เวียตนามใต้พัฒนาเจริญขึ้นอย่างรวดเร็ว จนทำให้เขาเป็นที่นับถือของชาวใต้เสมอมาจวบจนปัจจุบัน ดังนั้นในช่วงฉลองเทศการปีใหม่ของชาวเวียตนาม(Tet) ทุกปี จะมีผู้คนไปท่องเที่ยวที่วัดนี้จำนวนมากมาย เพื่อแสดงความรำลึกถึงเขา ขอพร ขอความสุข และสุขภาพที่ดี ยังไงก็ลองไปดูนะครับ ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่

จาก Quynh Thu,The Saigon Times Weekly

Saturday, March 8, 2008

นึก จ๊ำ น้ำจิ้มสูตรเวียตนาม

Nước chấm เป็นน้ำจิ้มไสต์เวียตนามที่พบเห็นได้บ่อยบนโต๊ะอาหาร เหมือนซอสน้ำจิ้มบ๊วยที่เหลวใสเกือบเหมือนน้ำสีส้มเข้ม โดยที่เราเองก็สามารถปรุงได้ที่บ้าน ลองดูนะครับ น้ำจิ้มมีส่วนประกอบเครื่องปรุงดังนี้

-น้ำมะนาว 1 ส่วน ใช้น้ำส้มสายชูแทนก็ได้หรือน้ำมะขามก็ดีจะอมหวานด้วย สีอาจเทาบางคนไม่ชอบ
-น้ำปลา 1 ส่วน
-น้ำตาล 1 ส่วน
-น้ำสะอาด 2

ส่วนบางคนชอบเติมกระเทียมสับ พริกสดทุบพอแหลกเอาเม็ดออก เพิ่มผงชูรส แครอทฝานเป็นเส้นๆ ฯลฯ ปกติจะอุ่นน้ำผสมน้ำตาล ให้ละลายก่อน รอให้เย็นลงจึงปรุงส่วนผสมลงไป เปรี้ยวหวานมันเค็มแล้วแต่คนชอบ สูตรไม่ตายตัว ทั่วไปจะเน้นรสหวานแหลมนำเปรี้ยวจี๊ด เผ็ดรองลงมา โดยนำมากินกับอาหารดังนี้
-ข้าวเกรียบ (Cơm tấm เกิม ตั๊ม) อันนี้บ้านเรามี
-ปอเปี๊ยทอด(Chả giò จ๋า หย่อ) อันนี้บ้านเรามี
-ก๋วยเตี๋ยวหลอด(Gỏi cuốn ก๋อย ก้วน) อันนี้บ้านเรามี
-ขนมกระเบื้องญวน(Bánh Xèo บั๊น แซ่ว) แผ่นแป้งทอดปรุงใส่น้ำกะทิ คล้ายหอยทอดบ้านเรา ใส่กุ้ง หมู ถั่วลิสงบด เป็นแผ่นแป้งเหลืองกลมพับครึ่งเวลาเสิร์ฟ ขอเรียกว่า พิชซ่าถาดเวียตนาม แล้วกัน
-ก๊วยเตี๋ยวญวนคลุกขลิก(Bánh hõi บั๊น ฮอย) เทียบได้กับข้าวเกรียบปากหม้อบ้านเราแต่ไม่ใส่ไส้ ทำจากแป้งข้าวเจ้าคล้ายเส้นก๋วยเตี๋ยวหลอดหลายแผ่น วางซ้อนพอคำ เพื่อไม่ให้แผ่นแป้งติดกันเป็นก้อนจึงใส่น้ำมัน และหอมเจียว ใส่เนื้อหมูแผ่น เติมน้ำจิ้มลงไปคลุกเคล้าแห้งๆ
ที่มา: Wikipedia

Friday, March 7, 2008

ระบบการปกครอง และการบริหารท้องถิ่นเมืองโฮจิมินห์ซิตี้

Hồ Chí Minh City จัดโครงสร้างการปกครองเป็นระบบเทศบาลเมืองเหมือนกับจังหวัดอื่นๆในเวียตนาม สภาเทศบาลประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรท้องถิ่นที่ได้รับการเลือกตั้งจำนวน 95 ท่าน และวุฒิสมาชิกที่ได้รับการคัดเลือกจากพรรคคอมมิวนิสต์ 13 ท่าน ประธานสภาผู้แทนจะดำรงตำแหน่งประธานบริหารเกี่ยวกับงานราชการ ส่วนเลขาธิการวุฒิสมาชิกจะดำรงตำแหน่งประธานผู้บริหารจัดการเทศบาล นับว่าแปลกแตกต่างจากประเทศอื่นๆ ที่มีเพียงตำแหน่งนายกเทศมนตรีหนึ่งเดียวเท่านั้น ในการเป็นประธานบริหารจัดการ เหมือนอย่างในบ้านเราเป็นต้น

พรรคคอมมิวนิสต์(The Communist Party of Vietnam -CPV) จะเป็นผู้กำหนดนโยบาย ทางการปกครอง เศรษฐกิจ กิจกรรมทางสังคม ดังนั้น เลขาธิการวุฒิสมาชิกเมืองโฮจิมินห์(CPV HCMC Committee Secretary)จึงเป็นผู้ดำรงตำแหน่งสูงสุดของเทศบาล

เทศบาลเมืองแบ่งการบริหารออกเป็นอำเภอและตำบลรวม 24 เขต(ตุลาคม ปี 2003) เขตตำบลจะมีเพียง 5 เขต(พื้นที่ราว 1,601 ตร.กม.)โดยได้ถูกจัดให้เป็นเทศบาลตำบล(="Huyện" เฮวี่ยน ในภาษาเวียตนาม) ซึ่งครอบคลุมพื้นที่เกษตรกรรมรอบเมือง โดยยังอยู่ในความรับผิดชอบของเทศบาลเมือง อันประกอบไปด้วยตำบลNhà Bè, Cần Giờ, Hóc Môn, Củ Chi และ Bình Chánh ส่วนที่เหลือ 19 เขตเป็นอำเภอ(พื้นที่ 494 ตร.กม.) อยู่ในเขตเทศบาลเมือง(="Quận" ก่วง ในภาษาเวียตนาม) ตั้งแต่เขต 1ถึง 12 รวมกับอีก 7 เขตที่เป็นเทศบาลเมืองตอนในคือ Tân Bình, Bình Thạnh, Phú Nhuận, Thủ Dức, Bình Tân, Tân Phú และGò Vấp ในแต่ละอำเภอเทศบาลเมืองตอนใน ยังซอยย่อยเป็นหลายๆตำบล(="Phường" เฟิง) ส่วนเทศบาลตำบลรอบนอกก็ซอยย่อยเป็น คอมมูนหรือนิคมสร้างตนเอง(="Xã" สา) และหมู่บ้าน(="Thị trấn" ถิ จั้น) ปัจจุบัน ปี 2006 เมืองโฮจิมินห์ มี 254 ตำบล 58 นิคม 5 หมู่บ้าน