เราไปวัดไร่ขิงต่อซึ่งห่างจากจุดนี้ไปห้ากิโลเมตร ขึ้นชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อวัดไร่ขิงขอพรแล้วสมปรารถนา วัดนี้พื้นที่จอดรถกว้างมากหอระฆังใหญ่มาก คนมากันเยอะมาก โดยจะมากันเป็นครอบครัวไหว้พระขอพร ตรงข้ามอุโบสถเป็นที่ตั้งศพบำเพ็ญ มีวงปี่พาทย์มอญสวยงามมากกำลังบรรเลง ชุมชนนี้มีคนมอญอาศัยอยู่มากตั้งแต่รัชกาลที่1 รัตนโกสินทร์ คงจะเป็นตอนที่ช่วยกู้ชาติตอนเสียกรุงศรีอยุธยา ทราบว่าวัดนี้ก็ก่อตั้งโดยสานุศิษย์อีกรูปหนึ่งของหลวงพ่อโสธรเช่นกัน คงจะก่อตั้งระยะเวลาไล่เลี่ยกับวัดดอนหวาย เดิมทีตรงนี้เป็นไรป่าขิงจึงเป็นที่มาของชื่อวัด หลวงพ่อวัดไร่ขิงคือพระพุทธรูปปางมารวิชัยคือนั่งขัดสมาสหัตถ์ขวาคว่ำวางที่หน้าแข้ง หันหน้าไปทางแม่น้ำท่าจีน(ทิศเหนือ) ที่นี่ห้ามจุดประทัดดภายในวัด
จะมีสถานที่ให้จุดเป็นห้องเก็บเสียงติดตีนสะพาน(เก่า ท่า จีน)แม่น้ำท่าจีนห่างอุโบสถสองร้อยเมตร แปลกดี ต่อไปก็เป็นวัดไผ่ล้อมหลวงพ่อพูล เดิมมีต้นไผ่ล้อมรอบวัด ตามภาษาอินเดียไผ่เรียกว่าเวฬุ แต่ปัจจุบันไม่มีแล้ว ที่นี่ขึ้นชื่อทางด้านให้หวยแม่น ศพหลวงพ่อพูลไม่เผาแต่ถูกเก็บไว้ในโลงแก้วตามความเชื่อหรือเอาไว้หากินก็ไม่ทราบได้ ฮ่า...แต่ที่นี่มีหลายคนไปซื้อหวย(เว้ โซ้)แล้วถูกก็มี ส่วนที่กำลังมาแรงตอนนี้ก็วัวธนู ให้คุณทางค้าขายร่ำรวย ปัจจุบันทางวัดมีหลวงพี่น้ำฝนเป็นผู้บริหาร คนก็เยอะมากๆ ไม่ไกลนัก ผมสังเกตเห็นพระปฐมเจดีย์วรมหาวิหาร อยู่ไกลๆ ถามชาวบ้าน เล่าว่ากำลังอยู่ในระหว่างบูรณะเพราะฐานทรุด แต่ก่อนที่เราจะไปนั้น เราจะต้องไปที่พระราชวังสนามจันทร์ซึ่งเป็นวังเก่าของ ร.6 จะเป็นอย่างไรคงไว้เล่าคราวต่อไป