Nói Tiếng Việt:Personal Diary about Vietnamese Language-Cultural-Society from past experience work and life style in Vietnam.
Dict Vietnam Onlines
Dict Vietnam Onlines
See Vietnam
Loading...
หัวข้อยอดนิยม
culture
(9)
customs
(1)
economic
(2)
Entertainment
(4)
famous
(1)
food
(7)
football
(1)
gameshow
(1)
general
(1)
History
(10)
language
(11)
law
(1)
lifestlye
(32)
lifestyle
(6)
Music
(1)
MV
(5)
place
(1)
politic
(1)
singer
(2)
socities
(5)
sport
(1)
thai
(2)
travel
(6)
viet
(1)
vietnam
(18)
work
(2)
Tuesday, October 7, 2008
แค่ผงเข้าตา
สัปดาห์นี้ เพลงBụi Bay Vào Mắt(แค่ผงเข้าตา) เป็นเพลงที่ฮิตติดอันดับมาเกือบเดือนแล้ว ร้องโดยนักร้องสาวชื่อPhạm Quỳnh Anh อัลบั้มNợ Ai Đó Cả Thế Giới นับเป็นอัลบั้มที่สองแล้ว มาดูประวัติเธอสักนิด เธอเกิดปี 1984 อายุก็ 24 ปีแล้ว เกิดที่เวียตนาม ร้องสไตล์เพลงป๊อบ เป็นอดีตสมาชิกกลุ่มนักร้องวงSắc Màu (Hanoi)และ H.A.T ที่มีชื่อเสียงเคยดูทางทีวีครั้งนึงร้องคล้ายๆน้องโฟร์-มด(ช่วงนี้คลิปหลุดยังอยู่ในการฟ้องร้อง) ในบ้านเรา...ปัจจุบันสังกัดอยู่ค่ายดนตรีThế Giới Giải Trí(ดนตรีสากล) แรกเริ่มเดิมทีเข้าวงการเป็นนักร้องในวงSắc Màu ก่อนจะมาอยู่ในกลุ่มนักร้องสาวH.A.T ตัวA.=Anhเป็นชื่อย่อของเธอ มาร้องเพลงคู่กับตา Ưng Hoàng Phúcอยู่พักนึงก่อนที่จะแยกวงกับH.A.T มาทำอัลบั้มเดี่ยวกับค่ายเพลงThế Giới Giải Trí นับถึงปัจจุบันนี้เธอมีผลงานสองอัลบั้มแล้ว
อันแรกชื่อว่า "Hoa Quỳnh Anh... Chung Tình" สองคืออัลบั้ม"Nợ Ai Đó Cả Thế Giới"เท่าที่ฟังดูเพลงนี้ใสดีผมไม่แน่ใจว่าจะเรียกว่าคิกขุแอบแบ๊วได้หรือเปล่า ถ้าไม่ดูประวัติ ก็คงนึกว่าเอาเด็กน้อยมาร้องเพลง วันก่อนมีเพื่อนไปเที่ยวร้านแถวถนนชัยพฤกษ์ชื่อร้านโรงเตี๊ยมเจอพนักงานสาวที่ร้านส่วนใหญ่เป็นคนเวียตนาม ผมเคยไปอีกที่ชื่อร้านย้อนยุคที่นั่นก็มีบ้างแต่ไม่มากนัก อีกที่นึงที่เคยมีคนไปชื่อร้านอเมริกันสเต๊กเลยป้อมตำรวจแยกไทรน้อยเส้นวงแหวนรอบนอกทางไปสุพรรณได้ข่าวว่าอ๊อฟได้ด้วย(ข่าวไม่ได้กรอง) ก็เป็นคำถามจากคนที่เคยไปส่วนใหญ่จะถามว่าทำไมคนเวียตนามรูปร่างเล็ก อันนี้เท่าที่สังเกตส่วนมากก็เป็นเช่นนั้น ชีวิตโอกาสที่นั่นยาก อย่างอื่นก็คงตามที่ทุกท่านทราบกันดี(ผิวพรรณ)
นับแต่ช่วงน้ำมันขึ้นราคาเศรษฐกิจที่แย่นั้นผลักดันให้คนเวียตนามจำนวนมากต้องเข้ามาที่ประเทศไทยเพราะงานที่เงินดีมากๆทิปดีมาก ปากต่อปาก ทำให้คนเหล่านั้นไหลเวียนเข้ามา รวมทั้งยาบ้าหรือมา-ตุ๊ย เมืองไทยนั้นน่าอยู่ เพราะเราทำให้มันน่าอยู่ ช่วยกันหน่อยนะพี่น้องชาวไทย...
Friday, October 3, 2008
วิธีลดโลกร้อนของชาวไซง่อน
การเดินทางไปทำงานด้วยรถเมล์ ลดค่าไฟด้วยการใช้หลอดประหยัดไฟ งดใช้ถุง
พลาสติก เพื่อลดโลกร้อน
ในเมืองไซง่อนหรือโฮจิมินห์ หากพูดว่า"Sài Gòn xanh=ใส่ ก่อน ซัง"(ไซง่อนเขียว)จะเป็นที่ทราบกันในหมู่นักดื่มกินเที่ยวว่าหมายถึงการสั่งเบียร์สักขวดนึงมาดื่มสนนราคาขวดละ 8.000ด่อง สำหรับชาวไซง่อนแล้วเบียร์ไซง่อน(Bia Sài Gòn)นั้นนับว่าเป็นที่นิยมกันมาก โดยแบ่งออกเป็นสองชนิดตามสีของฉลากขวด คือ Sài Gòn đỏ (ใส่ ก่อน ด๋อ=ไซง่อนแดง) ฉลากขวดแดง และSài Gòn xanh ฉลากขวดสีเขียว ผมดื่มแล้วรู้สึกว่ารสชาติของขวดเขียวดื่มนุ่มกว่า ส่วนขวดแดงดีกรีแรงกว่าเปิดมาฟองจะฟูมากกว่า ดีกรี7% เบียร์แรงที่เคยดื่มมาก็เบียร์ดำRoyal Stout ของคาลส์เบิร์ก มาเลย์ สไตล์เดนนิชเป็นเบียร์สีดำกลิ่นออกโสมเกาหลีดีกรี8% ลองชิมที่บ้านเพื่อนคนแคนนาดาคุณAndyเผอิญเพื่อนคนฮอลแลนด์ชื่อดุ๊กแวะมาเยี่ยมที่พัทลุง เมื่อช่วงงานบุญส่งผีปู่ย่าตายายเมื่อ 29ก.ย.ที่ผ่านมา ก็แรงดีกระป๋องเดียวก็ตึงแล้ว นอกเรื่องอีกแล้วมาเข้าเรื่องกันดีกว่า
ทีนี้มาเข้าเรื่องของ Sài Gòn xanh กัน ซึ่งคงไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเบียร์แต่เกี่ยวข้องกับการสร้างนิสัยรักษ์สิ่งแวดล้อมและพื้นที่สีเขียวของชาวไซง่อน
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สื่อข่าวท้องถิ่นไซง่อน ได้ย้ำถึงผลการรายงาน การอภิปรายปัญหามากมายที่เกิดจากการใช้ถุงพลาสติก(Poly Ethylene=PE) หรือตามที่คนเวียตนามเรียกว่า túi xốp siêu thị(ตุ๊ย ซ้อบ ซิว ถิ=ถุงห้างช้อปปิ้ง) หรือ túi nylong(ตุ๊ย นาย ลอง=ถุงไนล่อน) ซึ่งถุงเหล่านี้สามารถพบได้โดยทั่วไปตามบ้าน
เมื่อเลิกงาน บรรดาผู้คนไปตลาดเพื่อซื้อกับข้าวในมื้อเย็น รวมทั้ง เนื้อ ผัก ปลา อาหาร ซึ่งต้องใช้ถุงพลาสติกใส่แยกชิ้นกัน หลังรับประทานเสร็จเศษอาหาร ต่างๆรวมทั้งขยะต่างๆที่ต้องใส่ลงถุง ลงถังกันในแต่ละวัน
จากข้อมูลดังกล่าวถ้านับแล้ว วันละเฉลี่ยห้าถึงสิบถุงใน 260วันต่อปี(คนทำงาน5วันต่อสัปดาห์,ปีละ52สัปดาห์) แต่ละปี คนไซง่อนคนหนึ่งจะสร้างขยะถุงพลาสติกถึงกว่า
1,300 ใบ โดยในจำนวนนี้ยังไม่รวมการใช้ถุงพลาสติกในช่วงหยุดสุดสัปดาห์!
ในความเป็นจริงแล้ว การใช้ก็คงไม่ได้มากมายตามสถิติการใช้ต่อปี โดยชาวเวียตนามมีการใช้ถุงพลาสติกถึง 40 พันล้านถุงต่อปี คนเวียตนามทิ้งถุงดังกล่าว 480 ถุงต่อคนต่อปี ซึ่งเป็นปริมาณที่สูงมากเมื่อเทียบกับชาติอื่นๆ อย่างในอังกฤษ คนเขาใช้ถุงพลาสติก 8พันล้านถุงต่อปีเฉลี่ย 133 ถุงต่อคนต่อปี ในเวียตนาม ถุงพลาสติกใช้ได้ทนทานนานกว่าห่อด้วยกระดาษและใบตอง แต่ว่าการย่อยสลายตัวนั้นยาวนานมากๆ
อย่างในประเทศที่กำลังพัฒนา หลายๆประเทศเองก็ได้ประสบปัญหาที่เกี่ยวข้องกับถุงพลาสติกต่อสังคมและชุมชน เช่นกัน โดยในเวียตนาม เมืองโฮจิมินห์ ห้าง METRO CASH&CARRY(ถนนออกเมืองไซง่อนสายฮานอยก่อนถึงเขตถู ดึก) เป็นเป้าหมายแรกของการหยุดขยะพลาสติก และสนับสนุนการใช้ถุงผ้าแทนที่ แต่ก็มีร้านค้าและตัวแทนจำหน่ายรายย่อย ยังคงยากที่จะงดใช้ถุงพลาสติก เพราะทุนไม่หนาพออย่างห้างใหญ่ๆ หากต้องแจกถุงผ้า
ทางหน่วยงานของรัฐเองก็สนับสนุนการประหยัดพลังงานไฟฟ้าโดยการใช้น้อยและปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่จำเป็นใช้งาน ปรับเครื่องทำความเย็นให้สูงขึ้นเพื่อประหยัดไฟ
ในส่วนของบ้านเรือน โรงงาน ปรับเปลี่ยนไปใช้หลอดผอมประหยัดไฟ แทนหลอดไส้ เมื่อหลายเดือนที่ผ่านมา EVN(Electricity of Vietnam) หรือการไฟฟ้าฝ่ายผลิตและจัดจำหน่ายเวียตนาม ได้มีการรณรงค์ใช้หลอดประหยัดไฟ มีการจัดจำหน่ายไปทั่วประเทศ แต่แผนงานก็ดูเหมือนจะไม่ง่ายนักที่จะประสบผลเพราะทางEVNเป็นผู้ผลิตไฟฟ้า ไม่ได้เป็นผู้ขายหลอดไฟโดยตรง
การขยับตัวสูงขึ้นของราคาน้ำมันรถเป็นเหมือนการบังคับให้คนไซง่อนต้องรักษ์สิ่งแวดล้อมไปโดยปริยาย ทางการเองก็รณรงค์การงดใช้ มอ'ไซต์แล้วหันมาใช้รถเมล์ หรือเดินเท้าในระยะทางใกล้ๆแทน บางคนก็หันมาใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้นด้วยการใช้กระดาษแทนถุงพลาสติก พูดง่ายแต่ก็ทำได้ยาก ซึ่งคงต้องใช้ระยะเวลาพอควร บางครั้งต้องลดความสะดวกสบายลงบ้าง
Bioplastic ซึ่งเป็นพลาสติกพิเศษผสมเส้นใยธรรมชาติสามารถย่อยสลายได้ด้วยตนเองเป็นแนวคิดหนึ่งที่จะเข้ามาแทนที่ถุงพลาสติก แต่ก็ยังคงมีราคาที่สูงอยู่ ซึ่งก็คงยากหากจะงดใช้ถุงพลาสติกที่สะดวกกว่าในทันที การนำแนวคิดมาใช้ควรเริ่มทำที่ตัวแทนจำหน่ายผู้ผลิตที่จะลดการผลิตถุงนี้ โดยเริ่มจากการทำหีบห่อด้วยกระดาษหลายกล่องแล้วนำไปใส่ถุงพลาสติกใหญ่เพียงถุงเดียว อันนี้ก็ช่วยได้ ส่วนบ้านเราก็มีการนำกระดาษอัดชานอ้อยเป็นจาน ถ้วย ราคาก็สูงพอควร พอใช้ซ้ำครั้งสองครั้งพอได้
มาตรการของห้าง METRO CASH&CARRY นั้นได้เริ่มการงดแจกถุงพลาสติกฟรี จนสิ้นสุดเวลา จึงจะทำการขายถุงผ้าโดยลูกค้าต้องจ่ายเงินซื้อเอง แต่ก็นับว่ามีประโยชน์เพราะถุงผ้านั้นใช้ใส่ของได้หลายๆครั้ง
ผู้จัดจำหน่ายทั่วไปก็สามารถทำได้ ยิ่งถ้าหากได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ ให้งดการใช้ถุงพลาสติก หรือหากจะปรับราคาถุงเล็กให้สูงขึ้นและปรับราคาถุงใหญ่ให้ถูกลง โดยทั่วไปแล้ว ถุงใหญ่สนนราคาถุงละ1.000หรือ2.000ด่อง แม่บ้านไซง่อนหลายคนเองก็คงไม่อยากซื้อไปใช้แน่เมื่อเทียบกับการที่ต้องใช้ถึงสี่ถุง บางทีเอาตังค์นั้นไปซื้อ Sài Gòn xanh สักขวดให้สามียังจะดีกว่า ฮ่า...(สี่ถุง=8.000ด่อง=เบียร์ 1 ขวด)
ที่มา:Quynh Thu,Saigon Times Weekly
Subscribe to:
Posts (Atom)