สำหรับชาวไซง่อนที่รายได้น้อย โซย(xôi)หรือข้าวเหนียว ยังคงได้รับความนิยมในมื้อเช้าซึ่งพวกเขาพอที่มีงบจ่ายได้
บนถนน Le Loi เขตหนึ่งใจกลางกรุงไซง่อน ตรงไปแล้วเลี้ยวซ้ายตรงมุมถนน Pasteur แล้วเลี้ยวซ้ายอีกครั้งตรงแยกถนนแรก และคุณจะเห็น เสาไฟที่เก่าแก่ที่สุดบนถนนLe Thanh Ton ในทรงเก่าแก่จนไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่าสร้างขึ้นเมื่อไหร่แต่ก็กล่าวได้ว่ามันคงอยู่มากว่าหลายทศวรรษแล้ว
ทุกเช้าตั้งแต่หกโมงถึงเก้าโมงบนบริเวณทางเท้าใกล้กับเสาไฟนี้จะมีหญิงชราคนหนึ่งขายข้าวเหนียวนึ่ง อาหารเช้าฟาสฟู๊ดสไตล์เวียตนาม คุณยายกล่าวว่าได้ขายมาเป็นสิบสิบปีแล้ว ตามคำเล่าของคนที่อยู่แถวนั้นกล่าวว่าแกขายมานานพอพอกับอายุของเสาไฟต้นนี้
กล่าวโดยทั่วไป ข้าวเหนียวถูกนึ่ง เพื่อให้น่ารับประทานข้าวเหนียวนึ่งจึงมีหลากหลายสีสรร ถ้าใส่ lá da(ล้า ยา=ใบเตย)จะทำให้มีสีเขียว ถ้าใส่ np than(อัญชัน) ทำให้เป็นสีม่วง ถ้าใส่ขมิ้นจะมีสีส้ม ข้าวเหนียวที่มีสีสรรต่างๆนี้จะถูกเรียกรวมกันว่า xôi ngt(โซย หงอด)หรือ ข้าวเหนียวหวาน เพราะใส่น้ำตาลลงไปด้วย ใส่เนื้อมะพร้าวขูดและงาโรยหน้า เราจะสามารถเห็นได้ว่าทั้งหมดมาจากธัญญาพืช
ในทางกลับกัน โดยแท้จริงแล้ว xôi ngt(โซย หงอด=ข้าวเหนียวนึ่งหวาน) เดิมมาจาก xôi mn(โซย หม่าน=ข้าวเหนียวนึ่งเค็ม)ที่ใช้รับประทานกับสำรับอาหารในมื้อปกติยอดนิยมอย่าง ข้าวเหนียวไส้อั่ว(xôi lp xng), ข้าวเหนียวไก่(xôi gà) หรือข้าวเหนียวหมูหยอง(xôi chà bông)
ข้าวเหนียวนึ่งยังคงเป็นที่นิยมในมื้อเช้าของชาวไซง่อน เหมาะกับคนรายได้น้อยและในหมู่เด็กนักเรียนด้วยงบเพียง 5.000 เวียตนามด่องหรือสิบสองบาทกว่า เพียงหนึ่งห่อก็ช่วยให้บางคนอิ่มยาวไปจนมื้อเที่ยงเลย
ข้าวเหนียวหวานเองก็ได้รับความนิยมไปทั่วเวียตนามซึ่งยังไม่มีที่ไหนปรุงได้อร่อยเท่าเมืองไซง่อน รวมทั้งข้าวเหนียวเค็มก็เช่นกัน
เมื่อชาวไซง่อนมีรายได้ที่ดีขึ้น ข้าวเหนียวปกติเองก็ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นเช่นกันจะเห็นได้จากร้านขายข้าวเหนียวเค็มหลายแห่งในไซง่อนตามมุมถนนBui Thi Xuanและถนน Cong Quynhในเขตหนึ่งเอง ที่เห็นมีผู้บริโภคเข้ามารับประทานข้าวเหนียวกันตั้งแต่เช้าจบเย็น
ในเมืองไซง่อน เองตามถนนCao Thang ได้รับฉายาว่าเป็น"ถนนแห่งข้าวนึ่ง" ในทุกวันตอนเย็น เลนหนึ่งของถนนจะเต็มไปด้วยรถเข็นขายข้าวเหนียวนึ่ง สังเกตได้จากหม้อนึ่งอลูมิเนียมหรือฝาปิดสเตนเลสขนาดใหญ่
มีคนไซง่อนที่นั่นเล่าเรื่องแบบติดตลกให้เราฟังว่า เขาพักอยู่ที่อพาร์ทเม้นท์เขตBinh Thanh ทุกวันเขาจะซื้อข้าวนึ่งห่อนึงจากหญิงคนขายที่มีกว่ายี่สิบห่อ เธอเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนในอพาร์ทเม้นท์แห่งนั้นเพราะข้าวนึ่งเธออร่อยราคาก็ย่อมเยา ทุกเช้าจะมีลูกค้ามารอเข้าแถวซื้อหน้ารถจักรยาน จนมีคนบางคนสงสัยว่าทำไมเธอไม่ขยายธุรกิจโดยการเปิดร้านขายหรือซื้อรถเข็นขายของ เธอบอกว่าอย่างแรกเธอไม่มีทุนและอีกอย่างคือเธอกลัวว่าจะถูกเทศกิจจับกุมที่ขายของบนทางเท้า
จนกระทั่งวันหนึ่ง ลูกค้าประจำของเธอก็ประหลาดใจเมื่อเธอบอกว่าจะเลิกขายแล้ว จะไปเรียนฝึกภาษาอังกฤษและงานสำนักงาน เพื่อหางานอื่นทำบ้าง ทำให้พวกเขาเองรู้สึกเสียดายที่จะไม่ได้กินมื้อเช้าที่ราคาแสนถูก อร่อย และเอาใจใส่ลูกค้า มาอย่างดีโดยตลอด อีกต่อไป
หลังจากนั้นหลายเดือนต่อมา ผู้คนแถวนั้นก็ต้องประหลาดใจอีกครั้งเมื่อ เธอและจักรยานคันเก่านั้นได้กลับมาอีกครั้ง พวกเขาดีใจมากที่จะได้มื้อเช้าที่อร่อยและราคาถูกอีกครั้ง เธอเล่าว่าการเรียนรู้ใหม่เป็นสิ่งที่ยากมากสำหรับเธอ "ไม่มีอะไรที่ดีสำหรับฉันเท่ากับการขายข้าวนึ่งอีกแล้ว"
ธุรกิจเครือข่ายการขายอาหารประเภทฟาสฟู๊ดได้กระจายไปทั่วเมือง ได้สร้างกระแสค่านิยมใหม่ให้กับคนรุ่นใหม่ในไซง่อน อย่างแฮมเบอเกอร์ และมันฝรั่งทอด ที่เป็นอาหารกินเล่น ข้าวเหนียวนึ่งก็ยังคงอยู่เป็นอาหารยามเช้าตามหลายๆโรงเรียน ตามเขตที่ยากจน คนขายข้างถนนจะขายข้าวเหนียวใส่รถเข็นขายหรือใส่ตะกร้าขายแก่พวกเด็กนักเรียน คุณจะลองแวะไปดูแถวถนนNam Ky Khoi Nghia หน้าโรงเรียนเทคนิค Cao Thang ทุกเช้าช่วงเปิดเรียนจะมีคนขายกว่าสี่สิบคนจอดรถตามมุมถนนเพื่อขายข้าวเหนียว
แม้ว่าชาวไซง่อนจะมีชีวิตที่เจริญขึ้นและธุรกิจที่เติบโตขึ้น ข้าวเหนียวนึ่งก็ยังคงเป็นมื้อเช้าและเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของคนยากจนที่นั่น
ที่มา::The SaigonTimes Weekly(EN)